“ต้มยำกุ้ง” อาหารไทยโด่งดังระดับโลกที่นักท่องเที่ยวไม่พลาดที่จะสั่ง ถ้าหากได้มาเยือนเมืองไทย ด้วยความหอมจากสมุนไพรนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นหอมแดง ตะไคร้ ใบมะกรูด ผสานกับรสเปรี้ยวจัดจ้านของมะนาว ความเผ็ดจากพริกขี้หนูสวน กลมกล่อมลงตัวด้วยรสหวานเล็กน้อย ทำให้ต้มยำกุ้งกลายเป็นเมนูสุดแซ่บที่ครองใจคนทั่วโลก
“ต้มยำ” ยังแตกยอดเป็นเมนูอื่นๆ ได้อีกมาก เช่น ต้มโคล้ง ต้มแซ่บ และโป๊ะแตก เพียงแค่ใช้ รสดีเมนู ต้มยำ แล้วดัดแปลงวิธีการทำเล็กน้อย ก็จะได้เมนูหลากหลายตามใจชอบ เริ่มจากต้มน้ำ 550 มิลลิลิตร เติม รสดีเมนู ต้มยำ 2 ช้อนโต๊ะ ใส่เนื้อสัตว์และผักตามชอบ เพียงแค่นี้ ก็ออกมาเป็น “ต้มยำ” แล้ว แต่ถ้าเติมพริกแดงคั่ว หอมแดงคั่ว และผักชีฝรั่งลงไป ก็จะกลายเป็นเมนูใหม่อย่าง “ต้มโคล้ง” และถ้าเปลี่ยนมาใส่ข่าทุบ พริกขี้หนูทุบ และใบกะเพรา ลงในน้ำซุปต้มยำปกติ เปลี่ยนเนื้อสัตว์เป็น กุ้ง หอย ปลา ต้มยำก็จะกลายเป็น “โป๊ะแตก” แล้วถ้าลองเติมพริกป่น ต้นหอมซอย และผักชีฝรั่ง ในน้ำซุปต้มยำ ก็จะได้ “ต้มแซ่บ” ดังนั้น รสดีเมนู ต้มยำ จึงใช้พลิกแพลงทำเมนูได้หลากหลาย โดยไม่ต้องเตรียมวัตถุดิบมากมาย ช่วยประหยัดเวลาในการเตรียมน้ำต้มยำ แถมยังได้รสชาติกลมกล่อมถูกปากอีกด้วย
สุดท้าย เคล็ดลับการทำต้มยำ ต้มโคล้ง โป๊ะแตก หรือต้มแซ่บให้อร่อย คือต้องต้มน้ำให้เดือดจัด ก่อนใส่เนื้อสัตว์ลงไป จะช่วยให้ไม่มีกลิ่นคาว และควรต้มเนื้อสัตว์แค่พอสุก ไม่ควรต้มนาน เพราะเนื้อสัตว์จะแข็งและไม่นุ่มน่าทาน ส่วนการปรุงรสด้วยมะนาว ควรใส่ก่อนเสิร์ฟ เพราะกลิ่นหอมของมะนาวจะหายไป ถ้าโดนความร้อนนานๆ
